การดูแลผิวพรรณด้วยสมุนไพรเป็นอีกทางเลือกที่เป็นที่นิยมของสาวๆในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ว่านหางจระเข้จึงเป็นสมุนไพรตัวแรกๆที่สาวๆจะต้องคิดถึง ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้ง หยาบกร้าน รวมถึงผิวที่สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน
มาทำความรู้จักกับ ว่านหางจระเข้ ( Aloe barbadensis Mill.)
ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติป้องกันผิวแห้ง ทำให้ผิวเรียบลื่น เพิ่มความชุ่มชื้น ต้านการอักเสบ และป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต ว่านหางจระเข้ถูกใช้เป็นเครื่องสำอางมาอย่างยาวนานนับพันปี มีบันทึกทั้งในกรีก โรมัน ซาอุดิอาระเบีย จีน อินเดีย โดยเล่าขานกันว่าเจลจากว่านหางจระเข้เป็นเคล็ดลับความงามของพระนางคลีโอพัตรา เนื่องจากใบว่านหางจระเข้มีสารสำคัญต่างๆ อาทิเช่น คาร์บอกซีเพปทิเดส (Carboxypeptidase) เป็นสารสมานผิว ช่วยลอกผิวหนังที่หยาบแห้งและเกิดผิวหนังใหม่ที่นุ่มนวลขึ้นมาแทน สารอะล็อกทิน-เอ (Aloctin A) เป็นไกลโคโปรตีน มีฤทธิ์ลดความเจ็บปวด การอักเสบของแผล นอกจากนี้วุ้นจากว่านหางจระเข้ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวหนังชั้นนอกได้จากสารเมือก (Mucilage) และสารโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)
จะเห็นได้ว่าว่านหางจระเข้นั้นมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะส่วนวุ้นว่านหางจระเข้ โดยการจะนำวุ้นสดมาใช้นั้นต้องมีวิธีการที่ถูกต้องคือ เลือกใบจากต้นที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป ปอกเปลือกแล้วนำวุ้นที่ได้ล้างน้ำให้สะอาด เพื่อล้างยางสีเหลือง รวมถึงแบคทีเรียที่อาจปนเปื้อนมากับเศษดินที่ติดมาออกให้หมด จึงจะนำวุ้นว่านหางจระเข้มาใช้งานได้ ซึ่งวิธีการค่อนข้างจะยุ่งยาก และอาจเกิดอาการระคายเคืองจากการแพ้ยางสีเหลืองได้ หากทำความสะอาดออกไม่หมด
ปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์เจลว่านหางจระเข้พร้อมใช้ เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายในการใช้งาน มีจัดจำหน่ายตามร้านขายยา ซึ่งผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ ผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์ที่เป็นเวชสำอาง โดยผลิตภัณฑ์ยาต้องผลิตจากวุ้นว่านหางจระเข้สดที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70 % ตามที่บัญชียาหลักกำหนดไว้ ใช้ในกรณีรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือใช้หลังการทำเลเซอร์หน้า ส่วนผลิตภัณฑ์เวชสำอางสามารถใช้สารสกัดว่านหางจระเข้ได้ ใช้ในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวหลังออกแดด
ข้อมูลโดย
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, 12 สูตรสวย ด้วยผักและผลไม้ใกล้ตัว . หมอชาวบ้าน